ประวัติเกี่ยวกับน้ำปลายใบ
น้ำปลายใบ เป็นฉายาที่เราใช้ในเว็บลานธรรม เมื่อหลายปีก่อน
...
ท่องในโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูกาล
ได้ฝึกฝนมาหลายศาสตร์ ทั้งทางโลก ทางธรรม
...
วันหนึ่งเราได้เห็นแผ่นประกาศของ รพ บีเอ็นเอช ขอความร่วมมือให้ถักไหมพรมเป็นชิ้นขนาด 15x15 ซม เพื่อรวบรวมทำผ้าห่มบริจาคไปช่วยที่กันดาร ตอนนั้นลูกสาวก็เริ่มโตแล้ว เวลาก็เริ่มมีมากขึ้น จึงเริ่มหาซื้อเข็มและไหมพรม แล้วรื้อฟื้นความรู้เก่าๆที่เคยเรียนถักไหมพรมตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วถักรวบรวมนำส่งทาง รพ.
...
หลังจากนั้นเครื่องเริ่มติด ยังไม่อยากหยุดถัก จึงเรียนถามครูบาอาจารย์ ก็ได้รับคำแนะนำให้ถักอังสะไหมพรมถวายหลวงพ่อที่นับถือ ท่านเคยอาพาธเป็นมาลาเรีย ซึ่งหายแล้ว แต่ท่านจะหนาวเหน็บ ทุกช่วงเย็นถึงเช้า ในทุกฤดูกาล มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตาให้พระท่านอื่นช่วยวัดสัดส่วนเพื่อถักอังสะถวาย
...
เราเริ่มหัดถักโดยได้แม่สามีแนะนำให้ใช้เข็มนิตติ้งแบบเซ็ต ยาว 9 นิ้ว เป็นไม้ไผ่ และซื้อไหมพรมสีพระ ยี่ห้อพื้นบ้าน ขนาดเส้น 4.5 มม หาแพทเทิร์นที่มีทั่วไปในเว็บไซด์ มาศึกษา ลองผิดลองถูก ถักไปรื้อไป ถักขึ้นรื้อลงเหมือนถักใหม่ 3 ตัว จนสำเร็จ ซึ่งในช่วงแรกยังคงเป็นแบบทั่วไป เราพบปัญหาของแบบ และด้วยความไม่ชอบถักแบบแยกชิ้นแล้วนำมาเย็บต่อกัน อีกทั้งหลวงพ่อแนะนำว่าให้ทำแขนข้างที่เกาะไหล่ให้กว้างเหมือนอังสะผ้าจริงๆ เพราะไม่ผิดกฏ แต่จะทำให้อุ่นขึ้นกว่าแบบแขนเว้าทั่วไป เราก็พัฒนาแบบไปเรื่อยๆ จนได้แบบอังสะไร้ตะเข็บรุ่นต่างๆ
...
จากนั้นก็ฝึกถักอังสะถวายพระรูปอื่นๆต่อ การค้นหาไหมพรมเพื่อถักถวายพระ ทำให้เราเข้าออกร้านไหมพรมหลายร้าน พบปัญหา จึงเริ่มค้นหาไหมพรมในต่างประเทศ
...
หลังจากพบไหมพรมที่ต้องการ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่า "โยมเปิดบริษัทนำเข้าไหมพรมได้ไหมคะ"
...
ท่านและพระเปรียญธรรม9ประโยค เมตตาตั้งชื่อร้านให้ 18 ชื่อ โดยเป็นคำบาลี อันมีความหมายถึงเส้นด้าย ไหมพรมทั้งสิ้น
...
สิริสุภตา จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
(เส้นด้ายอันงดงาม)
ปัจจุบันหลวงพ่อท่านละสังขารแล้ว
ขอกราบหลวงพ่อชูศักดิ์ อนินชิโตด้วยกายวาจาใจ
...
ท่องในโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดูกาล
ได้ฝึกฝนมาหลายศาสตร์ ทั้งทางโลก ทางธรรม
...
วันหนึ่งเราได้เห็นแผ่นประกาศของ รพ บีเอ็นเอช ขอความร่วมมือให้ถักไหมพรมเป็นชิ้นขนาด 15x15 ซม เพื่อรวบรวมทำผ้าห่มบริจาคไปช่วยที่กันดาร ตอนนั้นลูกสาวก็เริ่มโตแล้ว เวลาก็เริ่มมีมากขึ้น จึงเริ่มหาซื้อเข็มและไหมพรม แล้วรื้อฟื้นความรู้เก่าๆที่เคยเรียนถักไหมพรมตั้งแต่สมัยมัธยม แล้วถักรวบรวมนำส่งทาง รพ.
...
หลังจากนั้นเครื่องเริ่มติด ยังไม่อยากหยุดถัก จึงเรียนถามครูบาอาจารย์ ก็ได้รับคำแนะนำให้ถักอังสะไหมพรมถวายหลวงพ่อที่นับถือ ท่านเคยอาพาธเป็นมาลาเรีย ซึ่งหายแล้ว แต่ท่านจะหนาวเหน็บ ทุกช่วงเย็นถึงเช้า ในทุกฤดูกาล มากน้อยขึ้นกับสภาพอากาศ ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตาให้พระท่านอื่นช่วยวัดสัดส่วนเพื่อถักอังสะถวาย
...
เราเริ่มหัดถักโดยได้แม่สามีแนะนำให้ใช้เข็มนิตติ้งแบบเซ็ต ยาว 9 นิ้ว เป็นไม้ไผ่ และซื้อไหมพรมสีพระ ยี่ห้อพื้นบ้าน ขนาดเส้น 4.5 มม หาแพทเทิร์นที่มีทั่วไปในเว็บไซด์ มาศึกษา ลองผิดลองถูก ถักไปรื้อไป ถักขึ้นรื้อลงเหมือนถักใหม่ 3 ตัว จนสำเร็จ ซึ่งในช่วงแรกยังคงเป็นแบบทั่วไป เราพบปัญหาของแบบ และด้วยความไม่ชอบถักแบบแยกชิ้นแล้วนำมาเย็บต่อกัน อีกทั้งหลวงพ่อแนะนำว่าให้ทำแขนข้างที่เกาะไหล่ให้กว้างเหมือนอังสะผ้าจริงๆ เพราะไม่ผิดกฏ แต่จะทำให้อุ่นขึ้นกว่าแบบแขนเว้าทั่วไป เราก็พัฒนาแบบไปเรื่อยๆ จนได้แบบอังสะไร้ตะเข็บรุ่นต่างๆ
...
จากนั้นก็ฝึกถักอังสะถวายพระรูปอื่นๆต่อ การค้นหาไหมพรมเพื่อถักถวายพระ ทำให้เราเข้าออกร้านไหมพรมหลายร้าน พบปัญหา จึงเริ่มค้นหาไหมพรมในต่างประเทศ
...
หลังจากพบไหมพรมที่ต้องการ จึงเรียนถามหลวงพ่อว่า "โยมเปิดบริษัทนำเข้าไหมพรมได้ไหมคะ"
...
ท่านและพระเปรียญธรรม9ประโยค เมตตาตั้งชื่อร้านให้ 18 ชื่อ โดยเป็นคำบาลี อันมีความหมายถึงเส้นด้าย ไหมพรมทั้งสิ้น
...
สิริสุภตา จึงได้ถือกำเนิดขึ้น
(เส้นด้ายอันงดงาม)
ปัจจุบันหลวงพ่อท่านละสังขารแล้ว
ขอกราบหลวงพ่อชูศักดิ์ อนินชิโตด้วยกายวาจาใจ